ตำรวจศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถฯ ขยายผลตรวจค้นอู่ซ่อมรถบรรทุก ในพื้นที่ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ

ความคืบหน้าคดีนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม และ น.ส.อาภาพร ศรีชมภู เจ้าของบริษัท วินเนอร์ กรุ๊ป จำกัด พร้อมตำรวจจากศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถตำรวจภูธรภาค 4 นำหมายศาลของจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นอู่ซ่อมรถบรรทุก บนถนนสายบางบ่อ-คลองด่าน ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ หลังนายอัจฉริยะ และตำรวจสืบทราบว่า อาจมีรถบรรทุกพ่วงของบริษัท น.ส.อาภาพร อยู่ภายในอู่

เบื้องต้นผู้เสียหายให้ข้อมูลว่า เจ้าของอู่ซื้อดาวน์รถบรรทุกพ่วงต่อจากบริษัท วินเนอร์ กรุ๊ป 3 พ่วง กว่า 1 ล้านบาท แล้วไม่ผ่อนชำระไฟแนนซ์อีกกว่า 8 ล้านบาท แต่พบว่ารถพ่วงถูกนำไปโพสต์ขายทางเฟซบุ๊ก และมีหลักฐานพอเชื่อได้ว่า เจ้าของอู่น่าจะรู้เห็นด้วย เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐาน และพาผู้เสียหายเข้าตรวจค้น เชื่อว่ารถที่ขายดาวน์ไป อาจมีการนำไปขายหรือแยกชิ้นส่วนจากอู่แห่งนี้ แต่บุคคลที่อยู่ภายในอู่ไม่ยอมเปิดประตูให้เข้า เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจปีนข้ามรั้วเข้าไปภายใน เจ้าของอู่จึงยอมออกมาคุยกับเจ้าหน้าที่ และมีการเจรจากันนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงยอมเปิดประตูออกมาเชิญผู้เสียหายเข้าไปร่วมค้นภายในอู่เพียงคนเดียว แต่นายอัจฉริยะ คัดค้านไม่ให้ผู้เสียหายเข้าไปในอู่ เพราะกลัวเกิดปัญหาตามมาภายหลัง จึงเกิดการปะทะคารมกับเจ้าของอู่

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เข้าไปถ่ายรูปเอาไว้ก่อน นอกจากนี้ยังเข้าค้นอู่เป้าหมายเครือข่ายเดียวกันอีก 2 จุด อายัดรถบรรทุก 44 คันไว้ตรวจสอบ ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อขอข้อมูลจากตำรวจพื้นที่ แต่ไม่มีตำรวจนายใดยอมเปิดเผยข้อมูล บอกเพียงว่า ตำรวจศูนย์ปราบปรามการโจรกรรมรถตำรวจภูธรภาค 4 เข้ามาจับกุมเอง และลงบันทึกการตรวจยึดรถไว้เท่านั้น